วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

อับดุลฮีโร่!!กิเลนทุบแอร์ฟอร์ซ4-1ฉลุยลีกคัพ

อับดุล คูริบาลี่ โชว์ทีเด็ด กดซัดแฮตทริก ช่วย "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทุบ "อินทรีทัพฟ้า" แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด 4-1 รวมผล 2 นัด ทัพกิเลน เฉือนชัยหวุดหวิด 4-3 ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ศึกลูกหนัง โตโยต้า ลีกคัพ" เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา


การแข่งขันฟุตบอล "โตโยต้า ลีกคัพ" รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 4-1 แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด


ที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดี้ยม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงศึกไทยลีก เปิดบ้านพบกับ "อินทรีทัพฟ้า" แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ดิวิชั่น โดยผลการพบกันมาในนัดแรก ผลปรากฏว่า แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด เฝ้ารังเก็บชัยได้ก่อน ด้วยสกอร์ 2-0
เกมนี้ เจ้าถิ่นส่งตัวสำรองลงสนามเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสุดสัปดาห์ 26 ก.ย. นี้ ต้องยกพลไปเยือนเกมนัดสำคัญช่วงโค้งสุดท้ายของไทยพรีเมียร์ลีก พบกับ พัทยา ยูไนเต็ด โดย 11 คนแรก ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์, ปกาศิต แสนสุข, เจษฎา จิตสวัสดิ์, รณชัย รังสิโย, อับดุล คูริบาลี่, ไพฑูรย์ นนทะดี, นฤพล อารมณ์สวะ, อมร ธรรมนาม, ปิยะพล บรรเทา, โนบูยูกิ ไซเซน และ ณรงค์ชัย วชิรบาล
ส่วนทีมเยือน แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด 11 คนแรก ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ทศพล อิ่มทรัพย์, นรินทร์ศักดิ์ โนรินทร์, ณธกร คุระนันท์, เจษฎา วรรธนบูรณ์, สีหศักดิ์ อาจหาญ, เคนเยา อบาบิโอ, ฟูจิ โบซานโก้, ไอยรักษ์ ชุมแดง, กิตติภพ อุปะชาคำ, มีเดช สราพุทธพิสัย และ สุทธิ ทองเครือมา
เริ่มเกมครึ่งแรกได้แค่ 14 วินาทีเท่านั้น เจ้าถิ่น "กิเลนผยอง" ก็ออกนำไปก่อน 1-0 หลังจากเป็นฝ่ายเขี่ยเริ่มเล่นบอลก่อน และ ไพฑูรย์ นนทะดี เปิดจากซ้ายมาโดน ทศพล อิ่มทรัพย์ นายทวารแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด เซฟไม่อยู่ บอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ รณชัย รังสิโย ซัดเข้าไปง่ายๆ ให้เจ้าถิ่น ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0
น.10 สกอร์เจ้าถิ่นเมืองทองฯ นำห่างเป็น 2-0 เมื่อได้ลูกเตะมุมจากด้านซ้าย โนบูยูกิ ไซเซน เปิดเข้ามาหน้าปากประตู เข้าหัว อับดุล คูริบาลี่ โขกบอลตงตาข่าย ทำให้สกอร์ 2 นัด ของคู่นี้ กลับมาเท่ากันที่ 2-2
น.14 เมืองทองฯ ได้ลุ้นอีกครั้ง อับดุล คูริบาลี่ เปิดจากขวาไปกะให้ รณชัย รังสิโย ที่รอเข้าฮอสอยู่ แต่โดน มีเดช สราพุทธพิสัย แนวรับทีมเยือนเตะทิ้งมาได้ก่อน
น.15 สกอร์เจ้าถิ่นเมืองทองฯ นำห่างเป็น 3-0 จากลูกเตะมุมขวา โนบูยูกิ ไซเซน ปั่นไปเข้าทาง ไพฑูรย์ นนทะดี ยิงยัดเข้าไปเกือบจะเข้าก่อนบอลปลิ้นมาเข้าทาง อับดุล คูริบาลี่ ยิงยัดแสกหน้านายทวารแอร์ฟอร์ซ เสยคานเข้าไปเป็นประตูที่ 2 ของนักเตะจากไอวอรี่โคสต์รายนี้ และเป็นประตูรวมให้ เมืองทองฯ กลับมานำเป็น 3-2
น.16 ฟูจิ โบซานโก้ กองหน้าทีมเยือน โดนเหลือง หลังไปสอย ณรงค์ชัย วชิรบาล ของเมืองทองฯ เข้าให้ น.23 แอร์ฟอร์ซ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมขวา ณธกร คุระนันท์ เปิดมา ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ นายทวารเมืองทองฯ ต้องปัดทิ้งออกหลังไป
น.32 ปิยะพล บรรเทา ลองส่องไกล แต่ไม่เข้ากรอบเสียของไปในจังหวะนี้ สำหรับเกมรุกของ เมืองทองฯ น.35 ทีมเยือนเปลี่ยนรายแรกส่ง นที ทองแก้ว ลงไปแทน เคน เยา อาบาบิโอ
น.38 ทีมเยือนได้ลุ้นตีไข่แตก กิตติภพ อุปะชาคำ พาบอลเข้าไปในเขตโทษ เมืองทองฯ ได้แล้ว แต่ยิงไม่ดี เพราะโดนบีบได้แค่เสียวเท่านั้น
น. 40 นรินทร์ศักดิ์ โนรินทร์ แนวรับแอร์ฟอร์ซ โดนเหลืองไปอีกราย ก่อนจบครึ่งแรก เมืองทองฯ เปิดบ้านนำ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ไปก่อน 3-0
ครี่งหลัง น.50 เมืองทองฯ หวิดหนีห่างเป็น 4-0 อมร ธรรมนาม หลุดขึ้นไปเปิดให้ รณชัย รังสิโย ได้โขกชนคานสนั่น บอลตกมา แต่ไม่เข้าประตู นายทวารทีมเยือนตะครุบไว้ได้ทัน
น.60 รณชัย รังสิโย ยิงจากนอกกรอบ แต่ก็ไปตรงตัวนายทวาร แอร์ฟอร์ซ น.65 นฤพล อารมณ์สวะ ไหลบอลให้ อมร ธรรมนาม ซัดแต่ไปตรงตัว ทศพล อิ่มทรัพย์ นายทวาร แอร์ฟอร์ซ อีกครั้ง
น.67 เมืองทองฯ น่าจะโดนที่สุด เมื่อหัวหอกผิวสีของทีมเยือน อย่าง ฟูจิ โบซานโก้ เบียดแย่งบอลจากที่เพื่อนวางยาวมาให้อย่างสุดสวย เอาชนะ เจษฎา จิตสวัสดิ์ ไปได้แล้ว ก่อนเจ้าตัวจะตวัดยิงเอง แต่หลุดกรอบออกหลังไปไม่น่า
น.68 เจ้าถิ่น "กิเลนผยอง" เปลี่ยนตัวรายแรกในเกมนี้ ส่ง วีระวุฒิ กาเหย็ม ลงแทน โนบูยูกิ ไซเซน
น.70 ณธกร คุระนันท์ ตัวรุกทีมเยือนโดน วีระวุฒิ กาเหย็ม แซะล้มลงในเขตโทษสุดเส้นหลังด้านขวา แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
น.75 นฤพล อารมณ์สวะ ออกบอลกลางสนามไม่ดีโดน ไอยรักษ์ ชุมแดง แย่งไปก่อนไหลให้ นที ทองแก้ว ยิงประตูสำคัญในเกมนี้ให้ แอร์ฟอร์ซ ไล่มาเป็น 1-3 ซึ่งทำให้สกอร์รวม 2 นัดเท่ากันที่เสมอ 3-3 โดยหากจบที่สกอร์นี้ เมืองทองฯ จะตกรอบด้วยกฎอะเวย์โกล เพราะทีมเยือนบุกมายิงได้ 1 ประตูในถิ่นของเมืองทองฯ
น.76 เมืองทองฯ ส่ง ภานุพงศ์ วงศ์ษา ลงเล่นแทนเจษฎา จิตสวัสดิ์ ก่อนที่นาทีต่อมา จะส่งแนวรุกอย่าง คริสเตียน คาเคา ลงไปแทน ณรงค์ชัย วชิรบาล เพื่อหวังทำประตูเพิ่มให้ผ่านเข้ารอบ
น.78 วีระวุฒิ กาเหย็ม เปิดบอลไปเข้าหัว รณชัย รังสิโย ได้โขกออกหลังไปนาทีเดียวกัน คริสเตียน หลุดขึ้นไปซัดเต็มเหนี่ยวบอลไปตรงตัวนายทวาร แอร์ฟอร์ซ
น.80 นที ทองแก้ว หวิดซัดเม็ดสองให้แอร์ฟอร์ซได้ แต่ยิงไม่ดีพอบอลหลุดกรอบออกหลังไป จากนั้นเวลาที่เหลือเมืองทองฯ บุกหนักหวังได้อีกประตู แต่ไม่เป็นผล
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที น.92 เมืองทองฯ มาได้ประตูสำคัญปลดล็อก นำห่างเป็น 4-1 เมื่อ ไพฑูรย์ นนทะดี เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวา ก่อนเป็น อับดุล คูริบาลี่ ขึ้นโขกบอลตุงตาข่าย เป็นแฮตทริกของตัวเอง ให้สาวกอุนตร้าเมืองทอง เฮลั่น ประตูรวม 2 นัด ทัพกิเลน นำ 4-3
น.94 เมืองทองฯ น่าจะได้อีกเม็ด เมื่อ ทศพล อิ่มทรัพย์ ออกไปรับบอลพลาด เลยมาถึง คริสเตียน แต่ทำลีลาไม่ยอมยิง กะเลี้ยงบอลให้เข้าประตู ก่อนที่ ทศพล จะวิ่งเข้าไปตะบบบอลชนเสา แล้วกระดอนกลับมาเข้าซอง จบเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ไปได้ 4-1 สกอร์รวม 2 นัด เมืองทองฯ ชนะ 4-3 ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ชนิดแฟนบอลอุลตร้าเมืองทอง ต้องลุ้นกันใจหายใจคว่ำเลยทีเดียว


รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ 7, ปกาศิต แสนสุข 6.5, เจษฎา จิตสวัสดิ์ 6.5 (ภานุพงศ์ วงศ์ษา 6), รณชัย รังสิโย 6.5, อับดุล คูริบาลี่ 7.5, ไพฑูรย์ นนทะดี 7, นฤพล อารมณ์สวะ 7, อมร ธรรมนาม 7, ปิยะพล บรรเทา 7, โนบูยูกิ ไซเซน 7 (วีระวุฒิ กาเหย็ม 6.5), ณรงค์ชัย วชิรบาล 6.5 (คริสเตียน คาเคา 6.5)
แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด : ทศพล อิ่มทรัพย์ 6.5, นรินทร์ศักดิ์ โนรินทร์ 6, ณธกร คุระนันท์ 6.5, เจษฎา วรรธนบูรณ์ 6, สีหศักดิ์ อาจหาญ 6.5, เคนเยา อบาบิโอ 6 (นที ทองแก้ว 6.5), ฟูจิ โบซานโก้ 6, ไอยรักษ์ ชุมแดง 6.5, กิตติภพ อุปะชาคำ 6.5, มีเดช สราพุทธพิสัย 6, สุทธิ ทองเครือมา 6

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : อับดุล ตูริบาลี่ ผู้กดแฮตทริกให้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

เสี่ยเป้สดุดีนักเตะ,แฟนกิเลนฯยันขอ4ถ้วยแชมป์

"เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไปของสโมสรเมืองทองฯ ออกโรงสดุดีแข้งกิเลนสุดยอด แถมขอบคุณกองเชียร์ ที่เข้ามาส่งเสียงเชียร์อย่างล้นหลาม เชื่อรอบรอบรองฯนัดแรกฉลุยแน่ ยังตั้งเป้าปีนี้ยันขอ 4 ถ้วยแชมป์


หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมรอบก่อนรองฯ นัด 2 ของฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย อย่าง เอเอฟซี คัพ 2010 ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ อัล คารามา จากซีเรียไปได้ 2-0 จาก 2 ประตู ของ ดัสกร ทองเหลา และจุดโทษ ของ ดักโน่ เซียก้า ทำให้รวมผล 2 นัด ชนะไปได้ 2-1 เมื่อ 21 ก.ย. 53 ที่ผ่านมา และเข้าไปเล่นรอบรองฯ ได้สำเร็จเป็นทีมจากไทยสโมสรแรกที่ทำได้สำเร็จ หลังจากรายการ เอเอฟซี คัพ เตะมาแล้วก่อนหน้านี้ 5 ฤดูกาล โดยเกมรอบรองฯนัดแรก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จะได้ปักหลักเล่นในบ้านตัวเองที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม ก่อน ในวันที่ 5 ต.ค. 53 นี้ ก่อนจะไปเยือนนัดสองในวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งหากผ่านเข้าชิงได้จะต้องไปเล่นในถิ่นของทีมจากอาหรับอย่างแน่นอนในการเล่นแบบนัดเดียวในวันที่ 6 พ.ย. 53

ล่าสุด "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไปของสโมสรได้ออกมากล่าวว่า "เกมที่เมืองทองฯ เอาชนะอัล คารามา ไปได้ 2-0 เมื่อ 21 ก.ย. 53 ที่ผ่านมา นั้นหากจะบอกว่าเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมอีกนัดในฤดูกาลนี้ของเมืองทองฯ เลยก็ว่าได้ เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทีมสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองฯ และยังอยู่ในเส้นทางของลุ้นแชมป์ต่อไปได้สำเร็จในถ้วยใบนี้ผมในฐานะตัวแทนของผู้บริหารทีม ต้องขอชื่นชมกับชัยชนะนัดดังกล่าว ไม่ใช่แค่เฉพาะแต่ตัวนักเตะเองแต่รวมถึงแรงใจอันยอดเยี่ยมจากแฟนบอลอุลตร้าเมืองทองฯ ที่แห่กันเข้าไปเชียร์กันถึง 1 หมื่นกว่าคนอีกด้วย แรงใจจากแฟนบอลดังกล่าวทำให้นักเตะมีกำลังใจในการเล่น และเค้นฟอร์มเก่งออกมาจนเอาชนะทีมอัล คารามา ไปได้ในที่สุด"

เชื่อรอบรองฯ นัดแรกผ่านฉลุยแน่

"เสี่ยเป้" ยังกล่าวอีกด้วยว่า "ผมมั่นใจว่าเกมรอบรองฯ นัดแรก ที่เราจะเล่นในบ้านก่อน 5 ต.ค. 53 นี้ ก่อนออกไปเยือนนัดสอง ในวันที่ 19 ต.ค. 53 ซึ่งเราต้องรอดูว่าจะพบกับใครระหว่างผู้ชนะคู่ คาซม่า (คูเวต) กับ อัล อิตติฮัด (ซีเรีย) แต่ไม่ว่าจะเจอกับใครผมก็มั่นใจว่าทีมเราจะผ่านไปได้ ที่ผ่านมาเราเอาชนะทีมเต็ง 1 และ 2 ของถ้วยนี้อย่าง อัลรายยาน ในรอบ 2 (16 ทีมสุดท้าย) และรอบก่อนรองฯ อย่าง อัล คารามา มาได้แล้วไม่มีอะไรต้องวิตกในการเจอกับทีมจากอาหรับอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าเราจะดีพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงได้แน่ โดยเฉพาะเกมรอบรองฯ นัดแรก 5 ต.ค.นี้ ในบ้านเราเอง เชื่อว่าเราจะชนะเขาได้แน่นอน ซึ่งสิ่งที่ผมอยากเห็นก็คืออยากจะเห็นทีมภาพที่มีแฟนบอลเข้ามาเชียร์ทีมเมืองทองฯ มากๆ เหมือนเกมรอบรอบก่อนรองฯ นัดสอง ที่ผ่านมาอีกครั้ง"

ไปเยือนไม่หวั่นศึกษาคู่เตะจากเทป

"ส่วนเกมรอบรองฯ นัดสอง 19 ต.ค. นั้น แม้เราจะตกเป็นรองในฐานะของผู้ไปเยือนแต่หากเกมรอบรองฯ นัดแรกในบ้านเราเอง เราได้ผลอย่างที่เราตั้งใจแล้วละก็เชื่อว่าไม่ใช่งานยากแต่อย่างใด โดยเรื่องของข้อมูลคู่แข่งขันนั้นก็ไม่วิตกเพราะมีเทปการเล่นของ 2 ทีมอย่าง คาซม่า กับ อัล อิตติฮัด อยู่ในมือแล้ว ต่อจากนี้ไปสิ่งที่เราต้องทำก็คือทำการบ้านให้ดี และลุ้นให้นักเตะเราสมบูรณ์ทุกคน ก่อนถึงเกมรอบรองฯ 2 นัดที่รออยู่ให้ได้ ส่วนกรณีที่ โคเน่ โมฮาเหม็ด กองหน้าจะโดนโทษแบนในเกมรอบรองฯ นัดแรก 5 ต.ค. นี้ หลังจากเจ้าตัวสะสมใบเหลือง 2 ใบในเกมรอบก่อนรองฯ ที่ผ่านมา ไปแล้วไม่มีปัญหา เพราะมีตัวที่สามารถทดแทนได้ โดยคงต้องปรับทัพกันนิดหน่อย อาจจะใช้ อมร ธรรมนาม ให้ลงมาเป็นตัวจริงแทน"

ชู "กิเลนฯ" อัพเกรดทีมจากไทย

"เสี่ยเป้" ยังกล่าวอีกด้วยว่า "ความสำเร็จของทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ผ่านเข้ารอบรองฯ ได้สำเร็จแล้วนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นแล้วว่าศักยภาพของทีมจากไทยเรานั้นไม่ได้เป็นรองใคร ที่ผ่านมาเรามักจะทำผลงานได้ไม่ดีในการเจอกับทีมจากชาติอาหรับ แต่วันนี้เมืองทองฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราไม่กลัวชาติอาหรับแล้ว เหมือนเป็นการอัพเกรดสโมสรจากไทยไปอีกระดับ เพื่อก้าวสู่การเป็นทีมแถวหน้าของเอเชีย และเชื่อว่าทีมเมืองทองฯ นั้นพร้อมสำหรับการเล่นถ้วยใหญ่อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างแน่นอน หากได้รับโอกาสสำหรับการเตรียมพร้อมสำหรับเกมรอบรองฯ ที่ต้องไปเยือนนั้น เราจะเดินทางล่วงหน้าเพิ่มจากรอบที่ผ่านมาด้วย เพื่อให้ทีมพร้อมที่สุดในการไปปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ และเรื่องของอาหารการกินต่างๆ หรือหากเราผ่านเข้าชิงได้สำเร็จซึ่งหนีไม่พ้นการต้องออกไปเยือนทีมจากอาหรับนั้นก็คงต้องใช้แผนเดียวกันเกมกับเกมรอบรองฯ นัด 2 แน่นอน"

ได้แชมป์มีโบนัสก้อนโตให้ลูกทีม

หากทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด สามารถผ่านเข้าไปชิงได้สำเร็จ จะมีเงินรางวัลอย่างน้อย 7.5 ล้านบาท หรืออย่างมาก 10.5 ล้านบาทให้ลูกทีมไปแบ่งกัน โดยจะหักเข้าสโมสรส่วนหนึ่ง โดย "เสี่ยเป้" บอกว่า "รางวัลสำหรับแชมป์เอเอฟซีคัพ นั้นจะได้ 3.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 10.5 ล้านบาท, รองแชมป์ได้ 2.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.5 ล้านบาท หากเราได้แชมป์จริงเงินก้อนนี้จะถูกจัดสรรปันส่วนให้กับนักเตะทุกคนในทีมตามการลงรับใช้ทีม และจะหักเข้าสโมสรไว้ส่วนหนึ่ง แต่ผู้บริหารจะมีการตกโบนัสเพิ่มให้อย่างแน่นอน"

เป้าหมายปีนี้ยันขอ 4 ถ้วยแชมป์

"เสี่ยเป้" กล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า "เป้าหมายทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในปีนี้เราวางไว้ที่ขอเป็นแชมป์ทั้ง 4 รายการที่เรายังอยู่เส้นทางลุ้นแชมป์ทั้ง 4 รายการไม่ว่าจะเป็น ไทยพรีเมียร์ลีก ที่เรานำจ่าฝูงอยู่, ไทยคม เอฟเอ คัพ ที่เข้าตัดเชือกไปแล้ว, โตโยต้า ลีก คัพ ก็ยังมีลุ้น รวมไปถึงเอเอฟซี คัพ อีกถ้วย ต้นปีเราได้ประเดิมมาแล้วกับถ้วย ก หากเราได้ 5 ถ้วยแชมป์ปีนี้เชื่อว่าจะเป็นอะไรที่มีความสุขมากสำหรับแฟนบอลอย่างแน่นอน"

ยอดคู่ "กิเลนฯ" เยอะสุดรอบก่อนรองฯ

สำหรับยอดแฟนบอลที่มีการเปิดเผยมาจากเอเอฟซี ในเกมรอบก่อนรองฯ 3 คู่เมื่อ 21 ก.ย. 53 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าเกมคู่ระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด กับอัล คารามา ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม ที่มีแฟนบอลเข้าชม 1 หมื่นกว่าคนนั้น เป็นสถิติยอดแฟนบอลมากที่สุดในเกมรอบก่อนรองฯ เลยทีเดียว โดยมีตัวเลขของเอเอฟซีบันทึกไว้ที่ 15,650 คน ส่วนเกมระหว่าง อัล คัดเซีย กับการท่าเรือไทย นั้นมีแฟนบอลเข้าชม 7,115 คน และดานัง กับ อัลไรฟา มีแฟนบอลเข้าชม แค่ 7,000 คนเท่านั้น

"บิ๊กเป้" ชี้เกมอัด "อัล คารามาห์" เป็นสุดยอดแมตช์แห่งฤดูกา

“บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด โวลั่นศึกเอเอฟซี คัพ นัดเปิดบ้านปราบ “อัล คารามาห์” ยอดทีมจากซีเรีย 2-0 เป็นเกมที่ดีที่สุดของทีมในซีซั่นนี้ ชี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จวงการฟุตบอลไทย โวเจอใครก็ได้ในรอบรองชนะเลิศ มั่นใจมาถึงจุดนี้มีโอกาสเข้าชิงสูง เผยนับจากนี้ไปจะเล่นทุกเกมให้เหมือนกับนัดชิงในทุกรายการ พร้อมสดุดีพลังแฟนบอที่มาร่วมเชียร์แน่นสนาม

สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับพลพรรค “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่สามารถเปิดบ้านต้อน “อัล คารามาห์” รองแชมป์เอเอฟซี คัพ 2009 ไปได้ 2-0 จากการทำประตูของ ดัสกร ทองเหลา และ ดานโญ เซียก้า พร้อมตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในถ้วยเอเอฟซี คัพ 2010 ได้สำเร็จ โดยหลังจบเกมทางด้าน “บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของสโมสร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเกมดังกล่าว ว่า

“ยอดเยี่ยมมากครับ เกมนี้นักเตะทุกคนเล่นได้ตามแท็กติกที่โค้ชวางไว้และต่างท็อปฟอร์มกันหมดทุกคน นี่เป็นเกมที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้และเป็นฟอร์มการเล่นที่แท้จริงของทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ผมเชื่อว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นในความสำเร็จของวงการฟุตบอลไทย ถึงตอนนี้เรามีโอกาสที่จะเข้าชิงในรายการนี้สูงมาก และพวกเราก็น่าจะทำได้สำเร็จด้วย ต่อจากนี้ในทุกๆ นัดที่เราลงเล่นจะเปรียบเสมือนนัดชิงในแต่ละรายการ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขอบคุณพลังเสียงของแฟนบอลเมืองทองและแฟนบอลชาวไทยทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจนักเตะในเกมนี้ และนักเตะทุกคนได้วิ่งเพื่อแฟนบอลและวิ่งเพื่อประเทศไทยของเราจนประสบความสำเร็จในที่สุด”

สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2010 รอบรองชนะเลิศ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จะพบกับ ผู้ชนะระหว่าง อัล อิตติฮัด (ซีเรีย) กับ คาสม่า (คูเวต) ที่จะทำการแข่งขันในวันที่ 22 กันยายน นี้ ส่วนการแข่งขันรอบรองชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม 2553 ซึ่งเมืองทองฯ ยูไนเต็ดจะได้เล่นในบ้านก่อน และจะออกไปเล่นเกมเยือนในนัดที่ 2 วันที่ 19 ตุลาคม 2553 ที่จะถึงนี้

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

แข้ง19เตรียมอุ่น4ทีมไทยลีกก่อนตัดตัวลุยศึกอช.

ทัพ 19 ไทย ชุดลุยศึก ชิงแชมป์เอเชีย ที่แดงมังกร ยังคงซ้อมเข้ม ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งทาง "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือใหญ่ เน้นความฟิตเป็นพิเศษซ้อมวันละ 2 มื้อเช้า-เย็นวันละกว่า 4 ชั่วโมง พร้อมทาบ บีอีซี เทโรศาสน, การท่าเรือฯ, เมืองทองฯ ยูไนเต็ด และทหารบก 4 ทีมจากไทยลีกอุ่นเครื่องเพิ่มประสบการณ์ ก่อนจะตัดชื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.ย.นี้


ความเคลื่อนไหวของทีมเยาวชนทีมชาติไทย 19 ปี ชุดสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่เมืองจือป๋อ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 3-17 ต.ค.53 นี้ ซึ่งทีมเยาวชนของไทยอยู่ใน สาย เอ ร่วมกับ "เจ้าภาพ" จีน, ซีเรีย และ ซาอุดีอาระเบีย โดยจะคัดเอา 4 ทีมไปชิงแชมป์โลก ที่โคลอมเบียในปี 2011

ล่าสุดวันเมื่อวันที่ 21.ก.ย.53 ที่ผ่านมา นักเตะก็ยังเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติหนองจอก โดยไม่มี อรรถพล กันหนู จากบุรีรัมย์ เอฟซี, เสกสิทธิ ศรีใส จาก อสช.ธนบุรี และ ชนานันท์ ป้อมบุบผา จากทีมเพื่อนตำรวจ ที่ติดภารกิจไม่ได้มาร่วมฝึกซ้อม ขณะที่ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ผู้รักษาประตูจากบุรีรัมย์ เอฟซี ก็ยังมีอาการป่วยมสามารถลงซ้อมได้ รวมถึง สุรเชษฐ์ งามทิพย์ กองหน้าจากบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เจ็บหลังเท้าจากเกมอุ่นเครื่องล่าสุด

โดยการฝึกซ้อมทางสตาฟฟ์โค้ชได้เน้นในเรื่องของพละกำลังเป็นพิเศษ ด้วยการจับเทสต์วิ่งจับเวลารอบสนาม ก่อนที่จะให้สปีดสั้น 50 และ 100 เมตร ปิดท้ายด้วยการยิงประตูในรูปแบบต่างๆ รวมเวลาฝึกซ้อมกว่า 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือ ได้เผยว่า ถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนที่จะออกเดินทางไปแข่งขันวันที่ 1 ต.ค. 53 นี้ว่า "เพื่อให้นักเตะมีประสบการณ์และความพร้อมก่อนลุยศึกชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้มากที่สุด ได้ติดต่อทีมระดับไทยลีกเอาไว้แล้วกว่า 4 ทีม

ได้แก่ ทีมบีอีซี เทโรศาสน, การท่าเรือฯ, เมืองทองฯ ยูไนเต็ด และทหารบก เพื่อลงอุ่นเครื่องในช่วงเวลาที่เหลือ นัดแรกจะลงกับทีมบีอีซี เทโรศาสน ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ที่สนามหนองจอกเวลา 16.00 น. ส่วนทีมอื่นๆ กำลังกำหนดวันแข่งขันที่เหมาะสมอยู่

กุนซือทีมเยาวชน 19 ปีทีมชาติไทย ยังได้ขอความเห็นใจบรรดาทีมในระดับไทยลีก ที่จะลงอุ่นเครื่องด้วยว่า อยากที่จะให้ช่วยส่งนักเตะชุดใหญ่ หรือชุดที่ดีที่สุดลงอุ่นเครื่องกับทีมเยาวชน 19 ปี เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ และเรียนรู้เกมให้มากที่สุด

นอกจากนี้ทาง โค้ชหนุ่ย ยังกล่าวอีกว่า ช่วงเวลาที่เหลืออาทิตย์ กว่าๆ ก่อนออกเดินทาง จะพยายามเน้นการฝึกซ้อมเรื่องของพละกำลัง และแท็กติกรูปแบบการเล่นเป็นพิเศษ โดยจะซ้อมวันละ 2 มื้อทั้งเช้า-เย็นรวมกว่าวันละ 4 ชั่วโมง โดยที่ช่วงเช้า 2 จะเน้นอัดเรื่องความฟิตพละกำลังความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่ช่วงบ่ายจะใส่แท็กติก รูปแบบการเล่น การขึ้นเกม และลูกเซตพีซ

ขณะที่เรื่องของการตัดตัวนักเตะให้เหลือ 23 คนก่อนออกเดินทางวันที่ 1 ต.ค. 53 นี้ทางโค้ชเฉลิมวุฒิ สง่าพล เผยว่า เป็นเรื่องที่หนักใจกับทางสตาฟฟ์โค้ชอย่างมาก เพราะนักเตะทุกคนมีความสามารถที่ใกล้เคียงกัน แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้นักเตะต้องแสดงให้เห็นว่า พร้อมที่สุดที่จะ ซึ่งคาดว่าวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. นี้น่าจะสามารถประกาศรายชื่อนักเตะ ที่จะร่วมเดินทางไปแข่งขันได้

เมืองทองกระหึ่ม รัว อัล คารามาห์ 2-0 พลิกเข้าตัดเชือกเอเอฟซีคัพ

เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ประเทศไทย โดยเป็นสโมสรแรกที่เข้ารอบรองชนะเลิศบอลถ้วยเอเชีย เอเอฟซีคัพ ได้ หลังเปิดบ้าน อัด อัล คารามาห์ รองแชมป์เก่าและเต็งหนึ่งจาก ซีเรีย 2-0 ทำให้รวมสองนัด ขุนพลกิเลนผยองพลิกเฉือน 2-1

ฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2010 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดี้ยม "กิเลนผยอง"เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าและจ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีก ได้กลับมาเล่นในบ้านพบ "บลูอันเลอร์ส" อัล คารามาห์ รองแชมป์ซีเรียลีก และรองแชมป์เก่ารายการนี้ โดยนัดแรกตัวแทนจากสยามบุกไปพ่ายมาที่ วาลีด สเตเดียม 0-1 หากนัดนี้พลพรรคกิเลนต้องการสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกของเมืองไทยที่เข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายรายการนี้ ต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูขึ้นไป

เรเน่ เดอร์ซาเยีย กุนซือเจ้าถิ่นเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากนัดแรกพอสมควร โดยได้ ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวเก่งหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาประสานงานกับ โคเน่ โมฮัมเหม็ด และ คริสเตียน เคาคู ส่วนแดนกลาง มี พิชิตพงษ์ ,ดัสกร และ ดักโน่ ทำเกม ขณะที่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมชาติไทยจะได้โชว์ฟอร์มต่อหน้าเอเย่นต์ยุโรปหลายทีมที่มาดูฟอร์มในเกมนี้

อัล คารามาห์ ของโมฮัมเหม็ด ควาเยด ส่งผู้เล่น 11 คนแรกจากเกมที่แล้วลงกันครบทีม ทั้ง โมฮัมเหม็ด อัล ซีโน่ ศูนย์หน้าทีมชาติซีเรีย ที่ยิงประตูชัยให้ บลูอันเลอร์ส ในนัดแรก โมซับ บอลฮุส ผู้รักษาประตูกัปตันทีม และคู่เซนเตอร์ร่างยักษ์ ฟาบิโอ ซานโต้ส กับ ริชาร์ด โบโฮโม่

เริ่มเกมมานาทีแรก เมืองทอง ได้กดดันก่อนจากลูกเตะมุม ดัสกร เปิดยัดมากลางประตู นักเตะกิเลนขึ้นกัน 3-4 คนแต่ บอลฮุส ทุบทิ้งไปได้ ถัดมา พิชิตพงษ์ เปิดให้ โคเน่ ได้ขึ้นโหม่งเต็มๆแต่เบาไปเข้ามือ บอลฮุส

น.8 เจ้าถิ่นได้เสียว ดักโน่ เซียก้า ไหลให้ ธีรศิลป์ แดงดา กดจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงเกือบจะเสียบเสาแต่ บอลฮุส ยังไวบินปัดออกหลังอย่างหวุดหวิด ช่วง 10 นาทีแรกเกมเป็นของเมืองทองอย่างชัดเจน ขณะที่ทีมเยือนจากซีเรียยังเน้นรับและรอสวนกลับ

น.13 ปิยะชาติ ทำชิ่งกับ พิชิตพงษ์ ก่อนจะจ่ายให้ คริสเตียน กลับตัววอลเลย์หน้ากรอบเขตโทษบอลข้ามคานไปไกล ถัดมา 2 นาทีโอกาสครั้งแรกของ อัล คารามาห์ จากจังหวะสวนกลับ อัลฮูซีน กระชากลุยมาจากกลางสนามถึงหน้ากรอบเขตโทษ จ่ายต่อให้ อัล มาโอวาส ซัด

หลุดเสาสองออกไปผ่าน 20 นาทีเมืองทองบุกแบบพับสนามแต่ยังทำอะไรไม่ได้

กระทั่ง น.27 สาวกอุลตร้าได้เฮกันลั่นสนาม ธีรศิลป์ แดงดา เปิดมาให้ณัฐพร ตอกส้นมาที่ ดัสกร ทองเหลา ปั่นโค้งด้วยขวาระยะ 25 หลา บอลโค้งฮุบเสียบเสาอย่างสวยสดงดงาม โดย บอลฮุส ได้แต่มองเท่านั้น เมืองทอง ขยับนำในเกมนี้ 1-0 ทำให้สกอร์รวมสองนัดเท่ากันที่ 1-1 แล้ว

อัล คารามาห์ พอเสียประตูชักจะอยู่นิ่งไม่ได้ น.35 ฟาบิโอ โหม่งตั้งให้ นาคดาห์ลี ซัดเต็มข้อเข้าซอง กวิน ถัดมานาทีเดียว เมืองทองสวนกลับ คริสเตียน โดน ริชาร์ด โบโฮโม่ สกิดล้มในเขตโทษ ชอย เมียง-ยง ผู้ตัดสินชาวเกาลหลีใต้ให้เป็นลูกจุดโทษกับเจ้าถิ่นทันที ทำให้ โบโฮโม่ ไม่พอใจเข้าไปต่อว่าโดนใบเหลืองไปและไม่เป็นผล ดักโน่ เซียก้า รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เมืองทอง ขึ้นนำ 2-0 สกอร์ 2 นัดตัวแทนจากไทยพลิกกลับมานำเป็น 2-1

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที เก้าอี้สำรองของ อัลคารามาห์เริ่มขยับแล้ว โมฮัมเหม็ด ควาเยด ส่ง โมฮานาด อลิบราฮิม ลงมาแทน นาสซูห์ นาคดาห์ลี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้หมดครึ่งแรก เมืองทอง นำ อัล คารามาห์ 2-0

เริ่มครึ่งหลังขุนพล กิเลน ยังเล่นกันด้วยความมั่นใจ น.48 ธีรศิลป์ ทำชิ่งกับ พิชิตพงษ์ ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติไทยจะหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูออกไป ส่วน อัล คารามาห์ แม้จะต้องการเพียงประตูเดียวเพื่อกลับมาได้เปรียบยังทำต่อเกมกันไม่ขึ้น

น.56 ทาเมอร์ ฮัจ ยกเท้าสูงใส่ ธีรศิลป์ เมืองทองได้ฟรีคิก ระยะ 25 หลากลางประตู ดัสกร ทองเหลา ปั่นโค้งข้ามคานไปนิดเดียว น.63 จากจังหวะสวนกลับของเมืองทอง ธีรศิลป์ ไหลทะลุช่องให้ คริสเตียน หลุดไปในเขตโทษก่อนจะโดน อับดุล ดาอิม ที่มาจากข้างหลังเบียดล้มลงไปแต่คราวนี้ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร

น.67 ดัสกร ไปรวบ อลิบราฮิม จากด้านหลังโดนใบเหลือง ถัดมา อับดุล ดาอิม ลองส่องไกลก็ไม่เข้ากรอบ น.70 พิชิตพงษ์ จ่ายบอลพลาดตรงกลางสนาม โดน อัลฮูซีน ตัดมาได้ จ่ายต่อให้ อลิบราฮิม แตะเข้าขวาและซัดหลุดเสาแรก

น.73 "บลูอันเลอร์ส"เปลี่ยนคนที่สอง เอา ฟาห์ด อูดิ ลงมาแทน มามูด อัลมาโอวาส อีก 2 นาที "กิเลนผยอง" ขยับบ้างถอด ดัสกร ทองเหลา คนทำประตูแรกออกให้ ปิยพล บรรเทา ลงมาแทน

เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย ควาเยด ไม่มีทางเลือกแล้วต้องเอา ริชาร์ด โบโฮโม่ เซนเตอร์ฮาร์ฟที่มีอาการบาดเจ็บออก พร้อมกับส่ง อาห์เหม็ด โอมาอิยอร์ ศูนย์หน้าลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้าย และเกือบจะได้เรื่อง อลิบราฮิม ลองส่งไกล กวิน โชว์ซุปเปอร์เซฟครั้งแรกในเกมนี้

อัล คารามาห์ เริ่มกดดันเมืองทองได้ช่วงท้าย น.84 ได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิก ประมาณ 25 หลา แต่ ฟาห์ด อูดิ ยิงไปติดกำแพง น.87 เรเน่ตัดสินใจแพ็กแดนกลาง โดยส่ง ณรงค์ชัย วชิรบาล ลงมาแทน คริสเตียน เคาคู

ช่วงทมดเวลาบาดเจ็บ เมืองทอง ลงมาตั้งรับกันทั้งทีมและต้านทานเอาไว้ได้จบเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอล เอเอฟซี คัพ หลัง ชลบุรี เคยหยุดเส้นทางไว้ที่รอบนี้เมื่อปี 2009 โดย ขุนพลกิเลนผยองจะไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อัล อิตติฮัด อีกหนึ่งทีมจากซีเรีย หรือ คาสม่า จากคูเวต ซึ่งจะเล่นนัดที่ 2 วันพรุ่งนี้( 22 ก.ย.53)โดยนัดแรก อัล อิตติฮัด ชนะมาในบ้าน 3-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เมืองทอง ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ (GK)- จักรพันธ์ แก้วพรม ,ภานุพงศ์ วงศ์ษา ,ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์(C) ,ปิยะชาติ ถามะพันธ์ - พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ,ดักโน่ เซียก้า ,ดัสกร ทองเหลา (ปิยพล บรรเทา น.75)- โคเน่ โมฮัมเหม็ด ,คริสเตียน เคาคู (ณรงค์ชัย วชิรบาล น.87),ธีรศิลป์ แดงดา

อัล คารามาห์ : โมซับ บอลฮุส(GK)(C) - อลา อัลซับลี ,ฟาบิโอ ซานโต้ส ,ริชาร์ด โบโฮโม่ (อาห์เหม็ด โอมาอิเยอร์ น.80) ,อับดุล ดาอิม ,มามูด อัล มาโอวาส ( ฟาห์ด อูดิ น.73)- ทาเมอร์ ฮัจ ,อับดุลราซัค อัลฮูซีน ,นาสซูห์ นาคดาห์ลี (โมฮานาด อลิบราฮิม น.42) - โมฮัมเหม็ด อัลฮัมวี ,โมฮัมเหม็ด อัลซีโน่


เอเยนต์ยุโรปบินดูฟอร์มตัวกวินแล้ว

เอเยนต์ของฟีฟ่า พร้อมกับ ผู้ช่วยโค้ชของทีมเมเชเลน ทีมในลีกสูงสุดของเบลเยียม บินมาซุ่มดูฟอร์มนักเตะไทยแล้ว โดยเฉพาะ "เจ้าตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ ที่ คลับ บรูช ยอดทีมจากเบลเยียม จะบินมาดูฟอร์ม อย่างใกล้ชิด


ฟอร์มการเล่นของ "เจ้าตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารดาวรุ่งของเมืองทองฯ ซึ่งกำลังดีวันดีคืน และได้รับความสนใจจากทีมในยุโรปมากมาย ที่ติดต่อเพื่อขอดูฟอร์ม ของผู้รักษาประตูรายนี้
ซึ่งล่าสุด "เสี่ยเป้" "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป ทีม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเอเยนต์ของฟีฟ่าชื่อ มอคเตมัน รวมถึง สแปน โฮเฟ่น ซึ่งเป็นผู้ช่วยโค้ชของทีมเมเชเลน ทีมในลีกสูงสุดของเบลเยียม ได้มาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยต้องการดูฟอร์มของผู้เล่นหลายคนในไทยลีก รวมถึง กวิน ธรรมสัจจานันท์ ด้วย
ขณะที่ คลับ บรูช ยอดทีมจากเบลเยียม เช่นเดียวกันนั้น จะเดินทางมาถึงประเทศไทย ในวันอังคารที่ 21 ก.ย. เพื่อมาดูฟอร์มของ กวิน ธรรมสัจจานันท์ อย่างใกล้ชิด

ชี้ ยาย่า คือตัวชี้วัดไทยลีก

โดย มอคเตมัน ซึ่งเป็นเอเยนต์ของฟีฟ่า ซึ่งได้เดินทางมาในงานแถลงข่าวความพร้อมของศึก เอฟเอซี คัพ รอบ 8 ทีม นัดสอง ระหว่าง เมืองทองฯ พบกับ อัล คารามา ที่ ร.ร.เรดิสัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า
"ซูมาโฮโร่ ยาย่า เป็นนักเตะที่โด่งดังมากในเบลเยียม ตอนนี้ จากฟอร์มการเล่นที่ดีและยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายทีมให้ความสนใจนักเตะจากเอเชียมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ไทยลีก ที่ตอนนี้ถูกมองว่ามีมาตรฐานสูงและมีหลายคนที่สามารถเล่นในยุโรปได้อย่างสบาย"

โรเบิร์ตเผย ยาย่า เจ็บพัก 6 วีก

ขณะที่ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทีมเมืองทองฯ ได้ออกมาเผยถึงความเคลื่อนไหวของ ซูมาโฮโร่ ยาย่า อดีตนักเตะของเมืองทองฯ ที่ไปได้ดีกับ เคเอเอ เกนท์ ทีมในจูปิแลร์ลีก เบลเยียม ว่าตอนนี้ปีกชาวโกตดิวัวร์ กำลังทำผลงานได้ดีจนเป็นที่รักของแฟนบอลไปแล้ว ทว่า ข่าวเศร้าคือ ยาย่า มีอาการบาดเจ็บ และไม่สามารถลงสนามได้ โดยต้องพักรักษาตัวนาน 6 สัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะกลับมาช่วยทีมได้ทันในฤดูหนาว

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

มุ้ยยืนเป้ากิเลนเต็มสูบฟัดอัลคารามาเอเอฟซีคัพ

"กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จัดหนัก หวังพิชิต อัล คารามา ใน 90 นาที วาง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ล่าตาข่าย ขนาบข้างขวาซ้าย ด้วย คริสเตียน และ โคเน่ โมฮาเหม็ด เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือของทีมประกาศเปิดเกมรุกตั้งแต่ต้นเกมหวังเอาประตูแรกให้ไวที่สุด ลั่นไม่หวั่นหากถึงฎีกา เชื่อฝีมือ "กวิน" จะพาทีมเข้าตัดเชือกได้ ส่วน อัล คารามา ขอใช้ประสบการณ์ระดับเอเชีย บุกสยบ "กิเลน" ให้ได้ ศึก "เอเอฟซี คัพ" รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง วันที่ 21 ก.ย. นี้



ความเคลื่อนไหวของศึก "เอเอฟซี คัพ" รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง ระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดสนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม พบกับ "บลู อัดเลอร์ส" อัล คารามา ยอดทีมจากประเทศซีเรีย ในวันอังคารที่ 21 ก.ย. 53 เวลา 19.30 น. โดยเมืองทองฯ บุกไปพ่ายมาก่อนในนัดแรก 0-1

ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ห้องเฟื่องฟ้า รร.เรดิสัน ได้มีการแถลงความพร้อมของทั้งสองทีม โดยทีมเยือนส่ง โมฮาเหม็ด กวาเยด กุนซือชาวซีเรีย และ โมซับ บัลฮอส นายทวารกัปตันทีม ส่วนเมืองทองฯ มี เรเน่ เดอซาเยียร์ เฮดโค้ชชาวเบลเยียม และ ดัสกร ทองเหลา เพลย์เมกเกอร์ตัวกลั่นร่วมแถลง ท่ามกลางสื่อมวลชนชาวไทย ที่แห่มาทำข่าวกันอย่างคับคั่ง

เรเน่เปิดรุกหวังได้ประตูเร็ว


เรเน่ เดอซาเยียร์ เฮดโค้ชชาวเบลเยียม ของเมืองทองฯ เปิดเผยถึงเกมวันอังคารนี้ว่า จะเป็นเกมที่สนุกสำหรับแฟนบอล เพราะจะได้เห็นเมืองทองฯ เล่นเกมรุกตั้งแต่ต้นเกมเพื่อการเล่นที่ง่ายในเวลาที่เหลือ

"ในซีเรีย อัล คารามา เป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่เมืองทองฯ ยังไม่เต็มร้อย ทว่าในเกมนัดที่สองนี้เราได้เล่นในบ้าน นักเตะทุกคนมีความกระหายชัยชนะ แน่นอนว่าจะเล่นอย่างเต็มที่และแฟนบอลจะต้องสนุก โดยเราจะเปิดเกมบุกตั้งแต่นาทีแรก โดยมีเป้าหมายคือเอาประตูแรกให้เร็วที่สุด เพื่อโอกาสการกลับสู่เกม อย่างไรก็ดี สกอร์ 0-1 อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะยิงคืน แต่อันตรายหากเรามาเสียในบ้าน นี่คือสิ่งที่ต้องระวัง"

ยิ้มได้ "มุ้ย-ตั้ม" คืนทัพ


เฮดโค้ชชาวเบลเยียมของ เมืองทองฯ เผยถึงผู้เล่นในเกมนี้ด้วยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับการเห็น "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กับ "เจ้าตั้ม" ณรงค์ชัย วชิรบาล กลับมาฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ตนจะมีผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม จะทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกของทีมดีขึ้น เนื่องจากผู้เล่นทั้งสองคน ถือเป็นทีเด็ดของทีมในการเล่นเกมบุก

หยันคารามาไม่มีตัวเก่ง


นอกจากนั้น เรเน่ เดอซาเยียร์ ได้เผยถึงคู่แข่งด้วยว่า "เราได้เห็น อัล คารามา เล่นในเกมแรก รวมถึงวิดีโอการเล่นของเขา ต้องบอกว่าไม่มีนักเตะคนใดคนหนึ่งน่าจับตามองเป็นพิเศษ ทว่านักเตะทุกคนวิ่งเคลื่อนที่ตลอดทั้งเกม ฉะนั้นแล้วทั้ง 11 ตำแหน่งถือว่าน่ากลัวมาก ซึ่งหนทางที่เราจะชนะ อัล คารามา ได้คือต้องเล่นให้เท่ากับเขา หรือต้องเหนือกว่าเขาเท่านั้น"

ไม่หวั่นหากดวลเป้าเชื่อใจ "ตอง"


อย่างไรก็ตาม หากเกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของ เมืองทองฯ 1-0 จะทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 และหากต่อเวลาพิเศษออกไป ยังทำอะไรกันไม่ได้ จะหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกจุดโทษทันที

เรื่องนี้ยอดกุนซือหัวขาวชาวเบลเยียม เผยว่า เราไม่ได้ซ้อมลูกจุดโทษมาเป็นพิเศษ แต่โอกาสที่จะยิงเป็นไปได้ เรามั่นใจว่าจะชนะหากต้องตัดสินด้วยจุดโทษจริงๆ เนื่องจากรอบ 16 ทีมสุดท้าย เราสามารถเอาชนะจุดโทษ อัล รายยาน ทีมจากกาตาร์ มาแล้ว ซึ่งได้ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ที่เซฟพาทีมเข้ารอบมาได้

"โกโก้" ลั่นขอสู้เพื่อชาติ


ขณะที่ "โกโก้" ดัสกร ทองเหลา เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กของเมืองทองฯ ที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง เผยว่า นัดแรกทุกคนรู้ดีว่าเราแพ้มา ฉะนั้น นัดที่สองนักเตะทุกคนก็รู้ว่าควรจะเล่นอย่างไรเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ แน่นอนว่าทุกคนพร้อมจะสู้อย่างเต็มที่เพื่อแฟนบอลชาวไทย ในฐานะที่เมืองทองฯ เป็นตัวแทนของประเทศไทย ส่วนผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับ 90 นาที

จัดทัพใหญ่ "มุ้ย" ล่าตาข่าย


สำหรับ 11 ผู้เล่นของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4-3-3 ประกอบไปด้วย กวิน ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู แผงหลัง 4 คนให้ จักรพันธ์ แก้วพรม เป็นแบ็กขวา ส่วนแบ็กซ้ายเป็น ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ขณะที่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ยืนคู่กับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา

ขณะที่กองกลาง 3 คน มี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดักโน่ เซียก้า และ "โกโก้" ดัสกร ทองเหลา ที่จะเป็นเพลย์เมกเกอร์คอยสนับสนุนให้กองหน้า 3 คน อย่าง โคเน่ โมฮาเหม็ด ที่จะยืนทางฝั่งขวา รวมถึง เคาคู เยาคริสเตียน ที่จะยืนทางฝั่งซ้าย และ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะลงล่าตาข่ายแน่นอน

กวาเยด มั่นใจประสบการณ์พาโลด


ด้าน โมฮาเหม็ด กวาเยด เฮดโค้ชชาวซีเรีย ของอัล คารามา เผยถึงเกมกับเมืองทองฯ ในวันอังคารนี้ว่า "เมืองทองฯ เป็นทีมที่ดีและมีการจัดการที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น ไม่ใช่งานง่ายของเราแน่สำหรับการเจอกันนัดที่สอง แต่จากนัดแรกเราได้เอาเทปมาเปิดดูและหาข้อบกพร่องของตัวเองมากกว่า และจัดการแก้ไขเพื่อรับมือกับเมืองทองฯ ให้ดีที่สุด ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าประสบการณ์ในระดับเอเชียของเรามีมากพอสำหรับการผ่านเข้ารอบ"

ชม "โกโก้,โอ๊ด,ตอง" สุดเจ๋ง


นอกจากนั้น กวาเยด ยังได้เผยถึงผู้เล่นของเมืองทองฯ ที่ทาง อัล คารามา ให้ความสนใจและจับตามองเป็นพิเศษในเกมนัดที่สองว่า "เราศึกษาผู้เล่นทุกคนในทีมเมืองทองฯ เพื่อหาจุดอ่อนในการเข้าทำ แต่ต้องบอกว่าเมืองทองฯ เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ ทั้งผู้เล่นต่างชาติ, ผู้เล่นหมายเลข 7 (ดัสกร ทองเหลา), ผู้เล่นหมายเลข 6 (ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์) และผู้รักษาประตู (กวิน ธรรมสัจจานันท์) ที่ทราบมาว่าเป็นดาวรุ่ง แต่จากนัดแรก นับว่าทำได้ดีในบ้านของเรา"

ไม่ชี้ชัดสกอร์แต่ฟันธงเข้ารอบ


สำหรับสุดท้าย โมฮาเหม็ด กวาเยด ได้ตอบถึงคำถามว่า คิดว่าสกอร์ที่จะออกมาในวันอังคารนี้ จะออกมาเท่าไหร่นั้น ทาง กวาเยด เผยว่า ตนไม่ทราบว่าตัวเลขของสกอร์จะออกมาอย่างไร แต่มั่นใจว่า อัล คารามา จะเดินทางกลับบ้านพร้อมเตรียมทีมสู่รอบรองชนะเลิศ

แฟนกิเลนเฮ!!ธีรศิลป์หายเจ็บลั่นลงยิงอัลคารามาห์แน่

แฟน กิเลนผยอง ได้เฮดังๆ เจ้ามุ้ย กองหน้าตัวเก่งของทีม ลั่นลงยิง อัล คารามาห์ คู่แข่งศึก เอเอฟซี คัพ เกมที่สองเต็มเกมแน่นอน ขณะที่ เรเน่ เดอซาเยียร์ เฮดโค้ชชาวเบลเยียม เน้นการเข้าทำที่หลากหลาย เล่นงานยอดทีมจากซีเรีย ด้านทัพ "บลู อัดเลอร์ส" ยกทัพใหญ่ เดินทางถึงไทยแล้ว

ความเคลื่อนไหวของทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงของศึก ไทยลีก และมีโปรแกรมลงเล่น เอเอฟซี คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง พบกับ "บลู อัดเลอร์ส" อัล คารามา ยอดทีมจากประเทศซีเรีย ที่สนามยามาฮ่าฯ วันอังคารที่ 21 ก.ย. 2553 นี้ เวลา 19.30 น. หลังจากที่นัดแรกเมืองทองฯ บุกไปพ่ายมาก่อน 0-1

เรเน่หวังเห็นการเข้าทำหลากหลาย

เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือใหญ่ชาวเบลเยี่ยมของ เมืองทองฯ ได้เปิดเผยว่า พยายามปรับแท็กติกในการเล่นเกมรุกใหม่ หลังจากที่นัดแรกไม่สามารถเล่นเกมรุกได้เท่าที่ควร จึงอยากเห็นนัดที่สอง ที่ทีมมีการเข้าทำที่หลากหลายมากขึ้น และเชื่อว่าเวลาที่เหลือน่าจะปรับได้ทัน "เรารู้ดีว่า อัล คารามา เป็นทีมที่ดีและมีเกมรุกที่น่ากลัว แต่จากเกมแรกเราก็พอรู้ถึงแท็กติกของเขา ดังนั้นเกมนัดที่สองเราต้องเล่นในเกมของเราและอาศัยความคุ้นเคยสนามเป็นจุดแข็ง นอกจากนั้นแล้วต้องมีการเล่นเกมรุกและเจาะเข้าทำหลายรูปแบบเพื่อเล่นงานแนบรับของเขาที่ถือว่าแข็งแกร่งไม่น้อย"

"เจ้ามุ้ย" ยันเองยังไงก็ต้องลง

ขณะที่ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งที่เผยก่อนเกมกับ อัล คารามาห์ ในนัดที่สองวันอังคารที่ 21 ก.ย. 2553 นี้ ว่าตนพร้อมแล้วสำหรับการลงสนาม ซึ่งเชื่อว่าทีมมีลุ้นที่จะเข้ารอบได้ พร้อมวอนแฟนบอลให้เข้ามาเชียร์กันเยอะๆ แม้จะเป็นกลางสัปดาห์ก็ตาม

"ตอนนี้อาการบาดเจ็บถือว่าดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถึงอย่างไรเกมนัดที่สองก็ต้องลงแม้ว่าจะยังไม่หายขาดก็ตาม เพราะต้องการลงไปช่วยทีมที่มีสกอร์ตามหลังอยู่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าทีมยังสามารถกลับมาได้และหากกองเชียร์เข้ามาเยอะๆ น่าจะกระตุ้นทีมได้ดีและเป็นการกดดันคู่ต่อสู้ไปในตัว"

"อัดเลอร์ส" ถึงไทยขนทีมชาติมาเพียบ

สำหรับ "บลู อัดเลอร์ส" อัล คารามา คู่ต่อกรของ เมืองทองฯ ในวันอังคารนี้ ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยไปที่เรียบร้อยแล้ว โดยมาทั้งสิ้น 30 ชีวิต ด้วยสายการบินกาตาร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินคิวอาร์ 610 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 18.55 น.

โดยการเดินทางมาครั้งนี้ของ อัล คารามา นำทัพโดย ฟาเรจ ชาร์ฮิน ผู้จัดการทีมและ โมฮาเหม็ด กวาเยด เฮดโค้ชชาวซีเรีย พร้อมด้วยนักเตะอย่าง ฟาบิโอ ซานโตส ดาซิลวา ปราการหลังชาวบราซิล เจ้าของความสูง 203 ซม. และ ริชาร์ด โบโฮโม่ เซนเตอร์ฮาล์ฟร่างยักษ์วัย 30 ปี ชาวแคเมอรูน

นอกจากนั้นยังมีนักเตะทีมชาติซีเรียที่อยู่ในทีม อัล คารามา เดินทางมาด้วยทั้งหมด 6 คน ประกอบไปด้วย อัลเหม็ด อโลไมเออร์, อับดุลราซาค อัล ฮูเซียน, โมฮัมเหม็ด อัลฮัมวี่, เบลัม อับดุล ดิอัม, โมซับ บัลฮอส นายทวารกัปตันทีม และ โมฮาเหม็ด อัลซิโน่ กองหน้าที่ซัดประตูชัยให้ทีมในเกมแรก

สำหรับทัพ อัล คารามา หลังจากที่เดินทางมาถึงประเทศไทย ได้เข้าพักที่ ร.ร.เรดิสัน พระราม 9 ทันที ก่อนที่วันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย. จะทำการฝึกซ้อมต่อไป

เครดิตข่าว : http://www.mtutd.tv

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

โปลิศเร่งรีดฟอร์มหวั่นสปอนเซอร์ถอนตัว

"สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ส่องานเข้า สปอนเซอร์อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ ปูนอินทรี อาจถอนตัว หลังสถานการณ์ของทีมหมิ่นเหม่ต่อการตกชั้น

ทีม "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ เข้าสู้สภาวะวิกฤตเสียแล้ว หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่า สปอนเซอร์อาจถอนหากทีมตกชั้น หรืออยู่ในอันดับไม่ดีพอ ในโซนหมิ่นเหม่ต่อการตกชั้น
ล่าสุดทาง พิทยา นัยสุภาพ ผช.ผู้ฝึกสอน ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ ในงานแถลงข่าว "มีต เดอะ เพรส" เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า มาถึงตอนนี้ ตนยังหวังว่าทีม น่าจะจบฤดูกาลด้วยเลขตัวเดียว หรือ อันดับ 8 ขึ้นไป
หากว่าไม่เป็นไปตามนี้ สปอนเซอร์ เจ้าอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเมนสปอนเซอร์หลัก อย่าง "ปูนอินทรี" ที่เซ็นสัญญาล่วงหน้า 3 ปี 60 ล้านบาท กลัวว่าจะมีการถอนตัวออกไป เพราะการเป็นทีมฟุตบอลอาชีพ จำเป็นต้องมีหลักประกันว่า ต้องมีผลงานหรืออันดับในตารางที่น่าเชื่อถือได้"

พลังเอ็มปลื้มฟอร์มคลีตันจับต่อสัญญาอีก2ปี

"พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ทุ่มเงิน 7 หลัก ต่อสัญญาสองดาวเตะ "แซมบ้า" คลีตัน ซิลวา กับ มาซิโอ โรเบอร์โต้ ดา ซิลวา โดยรายแรกยืดสัญญาต่อ 2 ปี ส่วนรายหลัง 1 ปี "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ ประธานสโมสร หวังให้เป็นกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้ และฤดูกาลหน้า นอกจากนั้น ยังยืนยันว่าจะอยู่ร่วมกับ จ.สระบุรี ต่อไ


คลีตัน ซิลวา นักเตะจากแดน "แซมบ้า" บราซิล ที่ถูกกลุ่มแฟนคลับของทีม ตั้งให้เป็น "โรนัลโด้ 2" ของ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี โดยย้ายมาในช่วงเลกสอง และทำผลงานได้เป็นอย่างดี ทำให้สโมสรได้จัดการต่อสัญญาออกไปอีก 2 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงสายของวันศุกร์ที่ 17 ก.ย. 2553 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม บ.โอสถสภา จำกัด

โดยมี "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ ประธานสโมสรเป็นประธาน พร้อมด้วย สมลักษณ์ ชัยศุภมงคลลาภ กรรมการฝ่ายหาทุนของสโมสรโอสถสภาฯ, "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เฮดโค้ช รวมถึงสื่อมวลชน ที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

"บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ ประธานสโมสรโอสถฯ ได้เผยถึงการตัดสินใจ ต่อสัญญากองหน้ารายนี้ว่า "คลีตัน เป็นนักเตะที่ดี และเข้ามาเพิ่มศักยภาพในการยิงประตูให้กับทีม ดังนั้นเราจึงต่อสัญญาเขาออกไป เพื่อเป้าคือติดท็อปไฟฟ์ในฤดูกาลนี้ รวมถึงฤดูกาลหน้าด้วย"

ต่อมาซิโอ 1 ปีค่าเซ็นรวม 7 หลัก

นอกจาก คลีตัน ซิลวา กองหน้าหน้าหล่อแล้ว ทางสโมสรได้จัดการต่อสัญญานักเตะ ที่ย้ายมาร่วมทีมในเลกสองนี้ด้วยอีก 1 คน คือ มาซิโอ โรเบอร์โต้ ดา ซิลวา กองหลังตัวเก่งชาวบราซิล ที่ฤดูกาลนี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และยึดตำแหน่งตัวจริงมาได้โดยตลอด

ซึ่ง มาซิโอ ได้รับการต่อสัญญาออกไปอีก 1 ปี โดยมีมูลค่าการเซ็นรวมกันทั้งสองคนเป็นตัวเลขถึง 7 หลักด้วยกัน โดย "บิ๊กต้อม" มองว่าการต่อสัญญาดาวเตะทั้งสอง จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมได้มีกำลังใจในการสู้ศึก ไทยลีก กับโปรแกรมที่เหลือเพื่อขยับอันดับติด 1 ใน 5 ให้ได้

รายต่อไปคัพฟ้า, สุรเดช

ขณะเดียวกัน "บิ๊กต้อม" ยังได้เผยถึงนักเตะภายในทีมรายต่อไป ที่จะต่อสัญญาคือ คัพฟ้า บุญมาตุ่น เพลย์เมกเกอร์ตัวขาวและ "โยโย่" สุรเดช ธงไชย ปีกตัวจี๊ด โดยดาวเตะทั้งสอง จะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่ง "บิ๊กต้อม" หวังว่าทั้งคู่จะเป็นกำลังสำคัญในฤดูกาลหน้าของทีมต่อไป

"ตอนนี้เรากำลังเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการต่อสัญญากับ คัพฟ้า บุญมาตุ่น และ สุรเดช ธงไชย ออกไป ซึ่งนักเตะทั้งสอง ถือเป็นตัวหลักของทีม และเราปั้นเขามาจนโด่งดัง ดังนั้นเราต้องการให้เขาอยู่ช่วยทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า นอกจากนั้นแล้ว เรายังเล็งที่จะดึงผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทีม แต่ต้องรอสรุปหลังจบฤดูกาลนี้ ว่าจะตัดสินใจดึงใครเข้ามาเสริมทีมบ้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจานักเตะทั้งสองคนด้วยว่าจะเป็นไปในทิศทางใด"

กระแสดีขออยู่โยงสระบุรีต่อ

ส่วนเรื่องการรวมตัวกับ จ.สระบุรี ภายใต้ชื่อทีม โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี นั้น ทาง "บิ๊กต้อม" ได้เผยว่ากระแสตอบรับจากแฟนบอลอยู่ในขั้นดีมาก ทำให้การฝังตัวอยู่ใน จ.สระบุรี ฤดูกาลหน้าก็จะยังคงมีต่อไปแน่นอน

"ตอนนี้เรามีแฟนบอลอย่างต่ำที่เข้ามาชมเกมใน แต่ละนัดประมาณ 3 พันกว่าคน ซึ่งแฟนบอลชาว จ.สระบุรี ดูแฮปปี้มากๆ กับการที่มีทีมจาก ไทยลีก ไปเตะให้ชมทุกเดือน นอกจากนั้นแล้ว เรายังมีกลุ่มแฟนบอล ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ประมาณร้อยกว่าคน ในการติดตามเชียร์ทุกนัดและทุกรายการ ทำให้อนาคตเราจะอยู่ที่ จ.สระบุรี ต่อไปแน่นอน"

ทุ่ม 7 ล้านเพิ่มไฟปีหน้าเตะ 6 โมง

ขณะเดียวกัน "บิ๊กต้อม" ยังได้เผยถึงเรื่องไฟที่ขณะนี้ยังไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เตะตอน 16.30 น. ซึ่งสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ในเรื่องนี้ทางประธานสโมสรได้เผยว่า "ตอนนี้เรากำลังปรับไฟสนามโดยใช้มูลค่า 7 ล้านบาท เพื่อให้ได้ มาตรฐานตามกฎ บ.ไทย พรีเมียร์ลีก โดยตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นต่อเติม และคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งผลพวงจากการเพิ่มไฟจะทำให้เตะตอน 6 โมงเย็นได้ในฤดูกาลหน้า และจะมีแฟนบอลของ จ.สระบุรี เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย"

"โค้ชเบ๊" ขอ 2 ตำแหน่งซีซั่นหน้า

ด้าน "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือคนเก่งของโอสถฯ ยังได้กล่าวถึงการเสริมทัพในฤดูกาลหน้าด้วยว่า ณ ตอนนี้ต้องการเพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง โดยไม่เปิดเผยว่าเป็นตำแหน่งใด โดยบอกเพียงว่าเป็นนักเตะไทยจากสโมสรในไทยลีกที่ไม่สามารถสอดแทรกในตำแหน่งตัวจริงได้ และแม้ว่าชื่อเสียง จะไม่ดังแต่คุณภาพดีแน่นอน

ไทยลีกเลื่อนโปรแกรมหลีกทางอุ่นเลสเตอร์

ศึกลูกหนัง "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดวันที่ 9-10 ต.ค. มีอันต้องเลื่อนออกไป เตะกลางสัปดาห์ที่ 13-14 ต.ค. เพื่อหลีกทางให้กับทีม "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ของอังกฤษ อุ่นเครื่องกับ ออลสตาร์ ไทยลีก 9 ต.ค. โดยเอ็นบีที 11 รับหน้าเสื่อ ยิงสดเวลา 18.30 น. จากสนามราชมังคลากีฬาสถาน


ทีม "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ของประเทศอังกฤษ ที่มีโปรแกรมอุ่นเครื่องกับ ออลสตาร์ไทยลีก วันที่ 9 ต.ค. นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. และจะมีการถ่ายทอดสดทางเอ็นบีที 11 ทว่าวันดังกล่าวตรงกับคิวเตะไทยลีกพอดี ทำให้โปรแกรมการแข่งขันศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 210" ได้มีการเลื่อนออกไป จากเดิมสุดสัปดาห์ วันที่ 9-10 ต.ค. เป็นกลางสัปดาห์ 13-14 ต.ค. 2553

สำหรับโปรแกรมที่เลื่อนออกมา ประกอบไปด้วยวันพุธที่ 13 ต.ค. 2553 เอสซีจี สมุทรสงคราม พบ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เวลา 16.30 น. ที่สนาม อบจ.สมุทรสงคราม, ชลบุรี เอฟซี พบ ทีโอที แคท เอฟซี เวลา 19.00 น. ที่สนาม ส.พล.ชลบุรี,

ทหารบก พบ บุรีรัมย์ พีอีเอ เวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬากองทัพบก, อินทรีเพื่อนตำรวจ พบ ราชนาวี-ระยอง เวลา 19.00 น. ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, พัทยา พบ แบงค็อก เวลา 18.00 น. ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ และ โอสถฯ พบ บางกอกกล๊าส เวลา 16.30 น. ที่สนาม อบจ.สระบุรี

ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 14 ต.ค. 2553 มี 2 คู่ คือ บีอีซี เทโรศาสน พบ การท่าเรือไทย เอฟซี เวลา 18.00 น. ที่สนามเทพหัสดิน และ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร เวลา 19.00 น. ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม

ศรีราชาลั่นขออีก3แมตช์การันตีไทยลีก

"เสี่ยหน่อง" วีระศักดิ์ หวังกุศล ผจก.ทีม ศรีราชา เอฟซี ประกาศกร้าวหาก ทัพ "เดอะบูลมาร์ลิน" เก็บชัยอีก 3 นัด จะตีตั๋วขึ้นไทยลีกฤดูกาลหน้าทันที


หลังจากที่เกมล่าสุด สามารถเปิดบ้าน เอาชนะ ขอนแก่น เอฟซี ทีมรองจ่าฝูงไปได้ ถึง 4-0 ทำให้ตอนนี้ มีคะแนนนำห่าง ขอนแก่น ไปแล้วถึง 11 คะแนน แต่ "เสี่ยหน่อง" วีระศักดิ์ หวังกุศล ผจก.ทีม "เดอะ บลูมาร์ลิน" ศรีราชา เอฟซี บอก ขออีก สัก 2-3 แมตช์ เพื่อความแน่ใจ และการรันตีสู่พื้นที่ไทยลีกในฤดูกาลหน้า

"ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนดูเข้าที่เข้าทาง และเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น กับความหวังของเรา ที่จะขึ้นในไทยลีกในฤดูกาลหน้า แต่ถึงอย่างไรก็ตามนั้น เราก็ยังประมาทคู่แข่งไม่ได้ เนื่องจากว่าเกมการแข่งขันยังเหลืออีกตั้ง 7 นัด ซึ่งไม่สามารถประมาทได้ แถมเรายังมีเกมหนักในการเล่นกับ นครปฐม เอฟซี, แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด และ เชียงราย ยูไนเต็ด ถ้าผ่านไปได้เราคิดว่าจะขึ้นสู่ไทยลีกฤดูกาลหน้าแน่นอน พร้อมเป็นแชมป์อีกด้วย" "เสี่ยหน่อง" กล่าวปิดท้าย

ไทยลีกอาจเพิ่มโทษทีมผิดซ้ำซาก,ย้ำวอล์กเอาต์ใช้กฎใหม่

ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เตรียลงดาบเพิ่มโทษพิเศษ ทีมที่ทำผิดซ้ำซาก ย้ำชัดการวอล์กเอาต์ให้ใช้กฎใหม่ หากโค้ชเรียกลูกทีมออกมารวมตัวกันข้างสนาม จะกี่นาทีก็ตามถือว่าเป็นการ "วอล์กเอาต์"


ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นประจำทุกวันพฤหัสบดี สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแถลงข่าว "มีต เดอะ เพรส" เพื่อให้สโมสรที่จะลงทำศึกได้มาชี้แจ้งในเรื่องการเตรียมทีม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย
โดยฝ่ายจัดการแถลงข่าวได้เชิญทีมที่จะลงดวลแข้งในวันเสาร์ ที่ 18 ก.ย. นี้ อย่าง "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี พบ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี และวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย. นี้ ทหารบก พบ อินทรีเพื่อนตำรวจ และคู่บิ๊กแมตช์ บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี ท่ามกลางผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าวเป็นจำนวนมาก
ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง แสดงความเป็นห่วงต่อทุกทีมใน ศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก" หลังจากที่เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งในโซนลุ้นแชมป์ และหนีตกชั้น มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล เป็นห่วงทั้งทีมในกลุ่มที่ได้ลุ้นแชมป์ รวมถึงทีมหนีตกชั้น อีกทั้งฟุตบอลถ้วยทั้ง มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ และโตโยต้าลีกคัพ เกือบถึงจุดไคลแมกซ์ บอกตามตรงว่าต้องมีความเป็นมืออาชีพเท่านั้น ถึงจะนำทีมสู่ความสำเร็จได้

ปธ.ไทยลีกลั่นอาจเพิ่มโทษทีมผิดซ้ำซาก

นอกจากนี้ ดร.วิชิต กล่าวถึงกรณีสโมสรที่ความผิดซ้ำซาก ว่า เราไม่ได้ระบุว่าทีมไหนทำความผิดซ้ำซาก ซึ่งรู้กันอยู่แก่ใจ ในอนาคตหากว่ายังไม่มีการแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้น บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก คงจะเพิ่มโทษพิเศษ เพราะช่วงนี้ "เอเอฟซี" ได้เข้ามาตรวจสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก หากว่ายังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นเรื่อยๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อการประเมินของ "เอเอฟซี" ก็เป็นได้

ดร.วิชิต ย้ำชัดวอล์กเอาต์ใช้กฎใหม่

ขณะเดียวกัน ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังยืนยันถึงการวอล์กเอาต์ในเกมดิวิชั่น 1 เมื่อวันเสาร์ ที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา คู่ระหว่าง จุฬา ยูไนเต็ด พบกับ นครปฐม เอฟซี โดย "น้าถิตย์" สถิตย์ ทวีนุช ผจก.ทีม ได้เรียกลูกทีมของตัวเองมาสงบสติอารมณ์ข้างสนาม หลังโดนจุดโทษ ทำให้เกมหยุดไปราว 2 นาที
หลังจากนั้นบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ได้ส่งหนังสือถึงสโมสรนครปฐม ว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการ "วอล์กเอาต์" โดยได้มีการปรับ วิมล จันทร์คำ 10,000 บาท และแบนห้ามคุมเกมข้างสนามอีก 2 นัด
"หลังจากที่เราได้เปิดเลกสอง ก็ได้มีการประชุมกันแล้วว่ากฎการ "วอล์กเอาต์" เราได้มีการเปลี่ยนใหม่แล้ว ในกรณีที่โค้ชเรียกนักเตะออกมารวมตัวกัน จะอยู่ข้างในหรือนอกสนาม ถือว่าเป็นการวอล์กเอาต์โดยเจตนา ดังนั้นแล้วฝากไปยังนครปฐม เอฟซี ด้วยว่าเหตุการณ์นั้นถือว่าเป็นการวอล์กเอาต์ชัดเจน จากนี้จะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกนัด"

บังยีออกโรงหนุนระเบิดศึกไทยคมจูเนียร์

"บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลไทย ออกโรงหนุนศึก "ไทยคมจูเนียร์ฟุตบอล เฟสติวัล 2010" เต็มที่ หลังเห็นว่าในครั้งแรก ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับการยอบรับจากเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก มาถึงปีนี้จึงเห็นสมควรที่จะจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมูลนิธิไทยคม ที่ต้องการมุ่งเน้นการพัฒนาเยาวนชนอย่างยั่งยืน และจริงจัง เผยจะเป็นรากฐานสู่การเป็นนักเตะทีมชาติในอนาคต


เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันศุกร์ที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเรดิสัน พระราม 9 นายทวีวัฒน์ ทวีกุล ผจก.ทั่วไปอัลไพน์กอล์ฟ รีสอร์ท-เชียงใหม่, คุณบพิธ โกมลภิส ผจก.โครงการอาวุโสมูลนิธิไทยคม, ได้เดินทางเข้าพบ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อปรึกษาหารือขอความอนุเคราะห์จากทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการให้การสนับสนุนและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการ "ไทยคม จูเนียร์ ฟุตบอล เฟสติวัล 2010"

โดย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ได้กล่าวว่า "ต้องขอขอบคุณทางมูลนิธิไทยคมเป็นอย่างมาก ที่เล็งเห็นความสำคัญของการแข่งขันฟุตบอลในระดับเยาวชน ซึ่งถือเป็นวางรากฐานของวงการฟุตบอลสู่ทีมชาติในอนาคต โดยทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีความยินดี ที่ได้รับเกียรตินี้ และมีความต้องการที่จะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือโครงการที่ดีแบบนี้ต่อไป"

ด้านนาย ทวีวัฒน์ ทวีกุล ได้กล่าวว่า "ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ จะมีการเปิดอบรมให้กับผู้ฝึกสอนของทุกทีม ที่เข้าร่วมการแข่งขันในเรื่องของการวางพื้นฐาน สำหรับการคุมทีม โดย 2 อดีตนักฟุตบอลทีมชาติ ที่ตอนนี้ ผันตัวเองมาเป็นกุนซือใหญ่ของทีมสโมสรอาชีพอย่าง "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ และ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ สำหรับตัวผู้ฝึกสอนเป็นอย่างมาก"

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการ "ไทยคม จูเนียร์ ฟุตบอล เฟสติวัล 2010" จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 24-26 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์รีสอร์ท จ.เชียงใหม่

มุกดาหารโกอินเตอร์!!!อุ่นเครื่องทีมชาติลาวชุดลุยซูซูกิคัพ


มุกดาหาร เอฟซี เตรียมโกอินเตอร์บินไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติลาวชุดลุยซูซูกิคัพ ที่กรุงเวียงจันทร์วันที่ 24 ก.ย. นี้ ผจก.ทีมเผยเพื่อเตรียมความพร้อมฤดูกาลหน้าและเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมรวมถึงสร้าสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

หลังจากที่ทีม มุกดาหาร เอฟซี ไปเปิดตลาดลูกหนังที่ประเทศลาวโดยการย้ายสังเวียนเหย้าไปเตะที่สนาม สะหวันนะเขต(ประเทศลาว) 2 นัดโดยนัดแรกพบกับ อุบล ไทเกอร์ เอฟซี และนัดที่ 2 พบกับ นครพนม เอฟซี โดยทั้ง 2 นัดได้รับความสนใจจากแฟนบอลที่นั่นค่อนข้างมาก ทำให้ล่าได้รับการติดต่อและประสานงานจากคุณนิวัฒน์ คล้ายสังข์ ผู้จัดการทีมชาติลาว เพื่อแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องและทดสอบตัวผู้เล่นสำรับเตรียมทีม ฤดูกาลหน้า กับทีมชาติลาวชุดซูซูกิคัพ ที่กรุงเวียงจันทร์ ประเทศลาว ในวันที่ 24 กันยายน นี้

โดยคุณ เอกสุรีย์ ศิรชัยวงศ์ ผจก.ทีมเผยถึงวัตถุประสงค์ของการแข่งขันครั้งนี้ว่า
1.เพื่อทดสอบ และหาตัวผู้เล่นสำหรับเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลหน้า โดยทีมมีเป้าหมายที่นักแตะทีมชาติลาว และผู้เล่นตัวต่างชาติจาก กัมพูชา และไนจีเรียที่ขอเข้าทดสอบร่วมกับทีมฯ ในครั้งนี้
2. เพื่อเชื่อมสัมพันธ์และสร้างพันธมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านในการสนับสนุนและร่วมกันพัฒนากีฬาฟุตบอล
3.เพื่อสัมมนาคณะผู้บริหารเรื่องนโยบายการบริหารจัดการทีมเพื่อความสำเร็จ

เลย ซิตี้ รับผู้ร่วมลงทุนด่วนสิ้นสุด5ต.ค. ทำแสตนด์เพิ่มความจุ500คน


เลย ซิตี้ ต้องการผู้ร่วมลงทุนซื้อแสตนด์ 10 ตัว ในราคาตัวละ 70,000 บาท เพื่อเพิ่มความจุ 500 ที่นั่ง รองรับรอบแชมเปี้ยนส์ลีก สิ้นสุดการชำระเงินภายในวันที่ 5 ตุลาคม

ภายหลังที่ผู้สื่อข่าวไทยลีกออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเลย ซิตี้ ไปก่อนหน้านี้ว่าจะมีการทำแสตนด์เชียร์จำนวน 10 ตัว เพื่อรองรับแฟนบอลที่เข้ามาชมในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกโดยเฉพาะ

ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจากนายศิริพงศ์ ทวีวงค์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของทีม "ผีตาโขน" ว่า แสตนด์ทั้ง 10 ตัว มีขนาดความยาวตัวละ 6 เมตร จำนวน 5 ชั้น ซึ่งสามารถรองรับผู้ชมได้ตัวละ 50 คน ดังนั้นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ที่สนามกีฬา จ.เลย จะเพิ่มผู้ชมได้ถึง 500 คน โดยแสตนด์ทั้ง 10 ตัว จะตั้งด้านหลังประตูฝั่งละ 5 ตัว

นายศิริพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ทางสโมสรเลย ซิตี้ ต้องการผู้ร่วมลงทุนในการซื้อแสตนด์ในราคาตัวละ 70,000 บาท และต้องชำระให้กับสโมสรเลย ซิตี้ ภายในวันที่ 5 ตุลาคม นี้ โดยผู้ร่วมลงทุนจะได้รับเงินคืน 80,000 บาท แบ่งเป็นงวดละ 4,000 บาท จำนวน 20 งวด เริ่มตั้งแต่นัดแรกของรอบแชมเปี้ยนส์ลีก หากสนใจติดต่อได้ที่เบอร์ 042-833655

เมืองทองฯลั่นเป้าหมาย4แชมป์ยังมีลุ้น


"เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ลั่นยังไม่หมดหวัง เป้าหมายลุ้น 4 แชมป์ ยังมีต่อไป เชื่อ 21 ก.ย. นี้ เปิดบ้าน แก้แค้น อัล คารามา เข้ารอบเอเอฟซี คัพได้แน่ หลัง ธีรศิลป์ แดงดา หายเจ็บกลับมาลงสนาม และ เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือพ้นโทษแบน มายืนคุมทีมข้างสนาม เปรยปีหน้าได้แข้งระดับท็อปของไทยมาร่วมอีกอย่างน้อย 3 ราย

แม้ว่าจะออกไปพ่าย อัล คารามา ของซีเรีย ในเกมเอเอฟซี คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก 0-1 แต่ว่าทางสโมสร "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ก็ยังหวังที่จะแก้ตัวในเกมนัดที่สองวันที่ 21 ก.ย. นี้ ที่ยามาฮ่า สเตเดี้ยม เพื่อการลุ้นเข้าสู่รอบรองให้ได้
โดย "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไปของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด กล่าวว่า นัดแรกเราไม่เป็นรองมากนัก ฉะนั้นเกมนัดที่สอง ยังมั่นใจว่า เราจะแก้ตัวได้เช่นกัน โดยจะได้ ธีรศิลป์ แดงดา กลับคืนสนาม และมี เรเน่ เดอซาเยียร์ กลับมาคุมทีม
ยังไงก็ขอแรงเชียร์จากแฟนบอลด้วย ไปกันให้มากๆ เรายังมีโอกาสชนะเข้ารอบได้ ซึ่ง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เรายังอยู่ในเส้นทางการไล่ล่า 4 แชมป์ โดยนักเตะทุกคน ก็รวมพลัง พร้อมที่จะทำให้สำเร็จ ไม่ว่าเอเอฟซี คัพ, ไทยลีก, มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีก คัพ
นอกจากนี้ทางทีม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยังมองถึงการเตรียมทีมฤดูกาลหน้าว่า จะต้องมีการเสริม และขึ้นป้ายขายตัวที่ไม่อยู่ในแผนออกไป ซึ่งทาง "เสี่ยเป้" เผยว่ามันเป็นเรื่องของสโมสรอาชีพ ที่จะต้องไม่หยุด นิ่งในการบริหารจัดการ
แน่นอนว่าแข้งระดับท็อปของประเทศ เราก็เล็งที่จะคว้ามาร่วมทีม เพื่อให้แต่ละขุมกำลังมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยได้มาสัก 3 ราย ก็น่าจะทำให้ทีมแกร่งขึ้น รวมถึงนักเตะต่างชาติ ก็จะมีการดึงมาเสริมด้วย เพื่อสานต่อความสำเร็จของทีมอย่างไม่หยุดยั้ง

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

กิเลนขายทิ้ง2นักเตะบิ๊กเนมข้อหาอ่อนซ้อม,ไม่ทุ่มเท


บอร์ดบริหาร เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ประกาศขาย 2 แข้งตัวหลักนัดแพ้ อัล คารามา จากซีเรีย 0-1 มีแข้งผิวสี 1 และแข้งไทยอีก 1 ด้วยข้อหาเล่นไม่ทุ่มเท ไม่สมกับอยู่กับทีมอย่างสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด

หลังจากที่ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แพ้ต่อ อัล คารามา จากซีเรีย 0-1 ในนัดแรก ศึกเอเอฟซี คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ปรากฏว่าหลังจบเกมทางบอร์ดบริหาร สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้มีการประชุมหารือถึงผลงานที่ปรากฏออกมา ในที่สุดมีมติเอกฉันท์ขึ้นทะเบียนขายนักเตะตัวหลักระดับ "บิ๊กเนม" ในทีม 2 คนด้วยกัน เป็นนักเตะผิวสี ไอวอรี่โคสต์ 1 คน และนักเตะไทยอีก 1 คน

สำหรับเหตุผลที่บอร์ดบริหารเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ประกาศขาย 2 นักเตะตัวหลักออกจากทีมกะทันหันเพราะ 2 นักเตะดังกล่าวไม่ทุ่มเทให้กับเกมการเล่นเท่าที่ควร ไม่สมกับที่อยู่กับทีม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรใหญ่ที่มีระบบทุกอย่างพร้อมมูล อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นรองสโมสรไหนในเมืองไทย อีกทั้ง 2 นักเตะดังกล่าวยังมีปัญหาเรื่องพละกำลัง ไม่ฟิตซ้อมเท่าที่ควร

"ทุกคนในเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเทให้กับเกมเอเอฟซี คัพ เยอะมาก เพราะถือเป็นตัวแทนประเทศไทย แต่ฟอร์มนัดแรกที่ไปเยือน อัล คารามา ที่ผ่านมา ดูจากรูปเกมที่ปรากฏออกมาแล้ว มี 2 นักเตะในทีมที่เล่นแล้วไม่สมกับที่เล่นอยู่ในทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด นั่นคือไม่ทุ่มเทให้กับเกมการเล่นเท่าที่ควร เมื่อเป็นดังนี้ทางทีมจึงประกาศขาย 2 นักเตะออกไปดีกว่า" ผู้บริหารกิเลนผยองกล่าวทิ้งท้าย

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

คลอดแล้วโปรแกรมซูซูกิคัพ 2010 ไทยชน อินโด,มาเลย์

คลอดแล้วโปรแกรมการแข่งขันรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2010 หรือรายการชิงแชมป์อาเซียน ไทยอยู่สายเอ ร่วมอินโด,มาเลย์ และที่ที่ชนะจะรอบคัดเลือก ส่วนสายบีเวียดนามแชมป์เก่า จะอยู่ร่วมสายกับ สิงค์โปร พม่าและทีมลำดับที่สองจากรอบคัดเลือก โดยทีมชาติไทยจะมีคิวฟาดแข้ง 1 ธ.ค.โดยจะพบกับทีมที่ชนะเลิศจากรอบคัดเลือก

การแข่งขันรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2010 หรือรายการชิงแชมป์อาเซียน ซึ่งในการแข่งขันในปี 2008 ทีมชาติเวียดนามเป็นแชมป์ โดยในการแข่งแมตช์เหย้าของทีมชาติไทยพลาดท่าเปิดบ้านแพ้เวียดนามไป 1-2 และแมตช์เยือนทีมชาติไทยเสมอทีมชาติเวียดนามไป 1-1 ส่งผลให้พลาดโอกาสเป็นแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย โดยสถิติแชมป์ตอนนี้ทีมชาติไทยเป็นแชมป์ 3 สมัย เท่ากับ สิงค์โปร ส่วนทีมชาติเวียดนามนั้นเป็นแชมป์ 1 สมัย

ล่าสุดวันที่ 15 กันยายน (วันนี้) ได้มีการจับสลากแบ่งสายกลุ่มการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ผลออกมาดังนี้

สายเอ : อินโดนีเซีย(เจ้าภาพ),ไทย,มาเลเซีย และ ทีมอันดับ 1 จากรอบคัดเลือก

สายบี : เวียดนาม(เจ้าภาพและแชมป์เก่า),สิงค์โปร,พม่า และ ทีมอันดับที่ 2 จากรอบคัดเลือก

ทางด้านรอบคัดเลือกนั้นมีทีมชาติลาว,กัมพูชา,ติมอร์-เลสเต และฟิลิปปินส์ ร่วมทำการแข่งขัน ซึ่งในรอบคัดเลือกนั้นจะทำการแข่งขันที่ประเทศลาว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ถึงวันที่ 26 ตุลาคม

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในรอบแรกของทีมชาติไทยมีดังนี้
ไทย - ทีมอันดับ 1 จากรอบคัดเลือก วันพุธที่ 1 ธันวาคม
ไทย - มาเลเซีย วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม
ไทย - อินโดนีเซีย วันอังคารที่ 7 ธันวาคม

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศจะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 15 - 19 ธันวาคม ปิดท้ายที่รอบชิงชนะเลิศจะแข่งวันที่ 26 และ 29 ธันวาคม

เรเน่ พอใจกิเลนโดนอัล คาราม่ายิงลูกเดียว

เรเน่ เดอซาเยียร์ ให้สัมภาษณ์กับเว็ปไซต์ เอเอฟซีว่า การบุกไปแพ้ อัล คาราม่า แค่ลูกเดียวถือว่าไม่เสียหายเมื่อเทียบกับรูปเกม ที่เป็นรอง ยันนัดสองต้องปรับเกมใหม่หมดหากเมืองทองจะหวังพลิกเข้ารอบ ส่วนโมฮัมเหม็ด กวีด ผิดหวังที่ทีมชนะแค่ 1-0

เว็ปไซต์ เอเอฟซี รายงานบทสัมภาษณ์หลังเกม เอเอฟซี คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ตัวแทนจากไทย บุกไปพ่าย อัล คาราม่า รองแชมป์เก่าจากซีเรีย 1-0 ที่สนามไอบีเอ็น อัล วาลีด สเตเดียม เมื่อวานนี้

เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือชาวเบลเยียมของเมืองทอง กล่าวว่า ถึงเราจะแพ้แต่ก็ถือว่า ทำได้ดีจากการที่เสียไปเพียงแค่ประตูเดียว และเชื่อว่า จะสามารถทำได้ดีกว่านี้ในแมตซ์ที่เมืองทองเป็นเจ้าบ้าน

"เราโชคดีที่ เสียไปเพียงแค่ประตูเดียวจากการที่ อัล คาราม่า มีโอกาสมากกว่า แต่ทำไม่ได้ แน่นอน ผมผิดหวังกับผลการแข่งขันแต่ เราได้ทำดีที่สุดแล้วเพราะเราเล่นกับทีมที่เน้นเกมบุก ท่ามกลางกองเชียร์เจ้าถิ่นหลายหมื่นคน"

"พวก เขาทำได้ดีกว่าเรา ไม่เปิดโอกาสให้เราครองบอลง่าย ๆ แม้เราพยายามจะทำประตูคืนในช่วงท้ายเกมส์ขณะที่นักเตะของ อัลคาราม่า เริ่มหมดแรง"

"เกมที่สองเราต้องปรับวิธีการเล่นให้แตกต่าง เพราะเราคงแพ้อีกนัดแน่หากใช้แท็คติกเดิมๆ "

ขณะที่ โมฮัมเหม็ด กวีด เฮดโค้ช อัลคาราม่า ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถชนะเมืองทองได้มากกว่า 1 ลูก เพื่อกุมความได้เปรียบในเลกสองที่จะไปเล่นในประเทศไทย

"เมืองทองเล่นกันได้ดี แต่ก็เพราะเราเพิ่งจะลงแข่งในเกมส์ทางการครั้งแรกในฤดูกาล ทำให้ผู้เล่นบางคนยังต้องปรับตัวพอสมควร"

อย่างไรก็ตาม นักเตะของเราแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพยายามอย่างมาก ผมรู้สึกพอใจกับผลการแข่งขัน ยอมรับว่าเมืองทองไม่ใช่ทีมที่จะชนะได้ง่ายนัก พวกเขาเล่นกันได้ยอดเยี่ยม

โค้ชกวีด ยังกล่าวอีกว่า การแข่งขันยังไม่จบ ยังเหลือเกมอีกนัดนึงในเลกที่สอง แต่ผมเชื่อว่า นักเตะของเราจะสามารถทำได้ดีกว่านี้ หากได้ตัวหลักหลายคนกลับมา และผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้

เอเอฟซี คัพ 2010 รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ระหว่างเมืองทอง ยูไนเต็ด กับ อัลคาราม่า จะกลับมาเตะกันที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดียม ประเทศไทย ในวันที่ 21 ก.ย.53 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

เครดิตข่าว : http://www.the-afc.com

คารามาห์เฉือนกิเลนหืด1-0ศึกเอเอฟซีคัพ8ทีม

การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี คัพ 2010 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก อัล คารามาห์ ทีมแกร่งจากซีเรีย เปิดรังเฉือนเอาชนะ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ไปได้แบบเฉียดฉิว 1-0 จากประตูชัยของ โมฮัมเหม็ด อัล ซิโน่ ในนาทีที่ 64 โดยจะกลับมาตัดสินชี้ขาดกันในนัดที่สองวันที่ 21 ก.ย. นี้ที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดี้ยม


ฟุตบอลเอเอฟซี คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก
อัล คารามาห์ (ซีเรีย) 1 - 0 เมืองทองฯ (ไทย)


สนาม : ไอบีเอ็น วาลีด สเตเดี้ยม


เมืองทองฯ ทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเดินทางไปเตะเอเอฟซี คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ซีเรียกับ อัล คารามาห์ เจ้าถิ่น โดยเกมนี้ "กิเลนผยอง" ไม่สามารถใช้งาน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งได้เนื่องจากบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง รณชัย รังสิโย เป็นกองหน้าตัวเป้า

เริ่มเกมมาในช่วงแรก ทั้งสองทีมไม่ผลีผลามบุกเข้าใส่กันมากนัก นาทีที่ 15 เจ้าถิ่นอัล คารามาห์ ส่งบอลเข้าประตูเมืองทองฯได้ก่อนจากการโหม่งซ้ำของ นาสซูห์ นาคดาลี่ แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน

จากนั้นรูปเกมบี้กันหนักในแดนกลาง และจังหวะสุดท้ายต่างไม่แน่นอนด้วยกันทั้งคู่ โดยเมืองทองฯอาศัยการตัดบอลหน้าเขตโทษและโยนยาวโดย ดัสกร ทองเหลา ให้ คริสเตียน แต่ดาวรุ่งเมืองทองฯก็จับบอลไม่ค่อยได้โดนฉกไปตลอด

ท้ายครึ่งแรกเกมยังคงเป็นไปอย่างสูสี โดยที่เจ้าถิ่นมีโอกาสทำเกมรุกมาป่วนเปี้ยนหน้าเขตโทษเมืองทองฯได้มากกว่าแต่ตัวแทนของไทยก็ตั้งรับกันได้ดีและยันเสมอ 0-0 เมื่อจบครึ่งแรก


ครึ่งหลังนาที 50 โมฮาเหม็ด อัลฮัมวี่ ของเจ้าถิ่นได้หลุดขึ้นทางฝั่งซ้ายก่อนจะโยกแล้วยิงด้วยซ้าย ยังดีที่ กวิน ล้มตัวตะครุบไว้ได้ก่อนที่บอลจะไปถึงเสาสองซึ่งมีผู้เล่นอัล คารามาห์ รอชาร์จอยู่

อีก 3 นาทีถัดมา โคเน่ โมฮาเหม็ด ของเมืองทองฯมาโดนใบเหลืองจากจังหวะพุ่งเข้าเสียบหนักใส่ มามูด อัล มาโอวาส จากนั้น ปิยะชาติ ถามะพันธิ์ ได้ยิงไกลแต่เข้าซอง โมซับ บัลฮอส นายทวารอัล คารามาห์


นาที 58 เมืองทองฯเปลี่ยนตัวคนแรกถอด เจษฎา จิตสวัสดิ์ ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง จักรพันธ์ แก้วพรม ลงเล่นแทน

แต่แล้วอัล คารามาห์ มาขึ้นนำ 1-0 ไปก่อนในนาที 65 จากฟรีคิกที่เปิดเข้าเขตโทษ ฟาบิโอ ซานโตส ดา ซิลวา กองหลังบราซิเลียนได้โหม่งชงต่อให้ โมฮาเหม็ด อัลซิโน่ ตวัดยิงจ่อๆ กวิน ปัดโดนแต่เอาไม่อยู่บอลทะลักเข้าประตูไป

เมืองทองฯน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างยิ่งในนาที 73 เมื่อ คริสเตียน อาศัยความขยันวิ่งไล่แย่งบอลจากเท้าของกองหลังเจ้าถิ่นก่อนจะตอกส้นให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ตัวสำรองวิ่งมาตะบันเต็มข้อหน้าเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย


ช่วงเวลาที่เหลือ เมืองทองฯ ไม่สามารถตีเสมอได้ทำให้จบเกม อัล คารามาห์ เฉือนชนะ 1-0 นัดสองเมืองทองฯจะได้กลับมาเล่นในถิ่นยามาฮ่า สเตเดี้ยม ของตัวเองในวันอังคารที่ 21 กันยายน นี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อัล คารามาห์ :
โมซับ บัลฮอส, ฟาบิโอ ซานโตส ดา ซิลวา, อับดุลราซัค อัล ฮูซีน, โมฮาเหม็ด อัลฮัมวี่, โมฮาเหม็ด อัลซิโน่, อับดุล ดาอิม, อลา อัล ชับบลี, ทาเมอร์ ฮัจ โมฮาหมัด, มามูด อัล มาโอวาส, ริชาร์ด โบโฮโม่, นาสซูห์ นาคดาลี่

เมืองทอง : กวิน ธรรมสัจจานันท์, ปิยพล บรรเทา, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, คริสเตียน, ดักโน่ เซียก้า, ดัสกร ทองเหลา, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, โคเน่ โมฮาเหม็ด, รณชัย รังสิโย

สำรอง : ทนงศักดิ์ พันพิพัฒน์, ปกาศิต แสนสุข, จักรพันธ์ แก้วพรม, ไพฑูรย์ นนทะดี, ณฤพล อารมณ์สวะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, อมร ธรรมนาม